เพื่อให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับการออกแบบตามหลักการยศาสตร์จะขอนำเสนอกรณีตัวอย่างของการออกแบบสถานที่ทำงานในสำนักงานโดยกล่าวถึงหลักการอย่างกว้าง ๆ ดังนี้
การออกแบบสถานที่ทำงานซึ่งประกอบด้วยเฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์สำนักงาน และสิ่งแวดล้อมในสำนักงาน ต้องคำนึงถึงองค์ประกอบที่สำคัญหลายประการด้วยกัน คือ งานที่ต้องทำ ท่าทางในการทำงานและกิจกรรมที่เกิดขึ้นในงาน โดยออกแบบสถานที่ทำงานตรงตามหลักการที่ว่าออกแบบระบบให้เหมาะสมกับผู้ปฏิบัติงานเพื่อก่อให้เกิดความสะดวกสบายในการทำงานและเกิดผลงานที่ดี
คาร์ล โครเมอร์ และคณะ ได้แนะนำว่าในการออกแบบนั้นให้คำนึงถึงสิ่งที่เชื่อมโยงระหว่างคนกับงานซึ่งได้แก่
ดังนั้นในการออกแบบสถานที่ทำงานจึงต้องคำนึงถึงส่วนต่าง ๆ ที่เชื่อมระหว่างคนกับงานตามหัวข้อที่คาร์ล โครเมอร์ และคณะได้นำเสนอไว้ข้างต้นตามหัวข้อต่าง ๆ ดังนี้
งานในสำนักงานส่วนใหญ่มักเป็นงานที่ประกอบด้วยการอ่านและเขียน ดังนั้นงานจึงมักถูกวางไว้ห่างสายตาในระดับข้อศอกพื้นผิวโต๊ะที่ทำงานอาจถูกออกแบบให้เป็นพื้นเอียงหรือพื้นราบ พื้นผิวเอียงจะทำให้สามารถมองเห็นและอ่านได้ง่ายกว่าแต่เอกสารอาจเลื่อนหล่นได้พื้นราบจะเหมาะกับการวางเอกสารได้หลากหลายแบบ ในการออกแบบที่วางเอกสาร เอกสารควรวางให้ตั้งฉากกับเส้นทางของการมองและไม่ควรตั้งห่างไปทางด้านข้างจนเกินไปเพราะจะทำให้ต้องเอี้ยวตัวมากและใช้สายตาทางด้านข้างมาก ผู้คนส่วนใหญ่มักนิยมมองเอกสารโดยก้มหัวลงในระดับเป็นมุม ๒๐ - ๖๐ องศา ต่ำกว่าระนาบที่ผ่านแนวของหูและตาและโฟกัสภาพโดยการก้มหัวลงเล็กน้อยใช้วิธีกรอกลูกตาไปมาเพื่ออ่านเอกสาร ดังนั้นในการวางจอคอมพิวเตอร์ควรวางให้อยู่ไม่สูงกว่าแป้นพิมพ์มากนัก และอยู่ใกล้แป้นพิมพ์ไปทางด้านหลัง นอกจากนี้ควรวางเอกสารต้นฉบับไว้ข้างจอเพื่อให้ง่ายต่อการมองเห็นและโฟกัส
การออกแบบแสงสว่างในสำนักงาน ปัจจัยสำคัญที่ควรคำนึงถึง ได้แก่
๑. ปริมาณแสงตกกระทบบนพื้นผิว (illumination)
โดยปริมาณแสงในสำนักงานควรมีประมาณ ๒๐๐ - ๕๐๐ ลักซ์
๒. ปริมาณแสงสะท้อน (luminance)
คือ แสงสะท้อนมาจากสิ่งที่มองและพื้นที่ใกล้เคียงรวมทั้งการสะท้อนมาจากกำแพงและเฟอร์นิเจอร์ในห้องควรให้แสงสะท้อนจากเพดานอยู่ในระดับร้อยละ ๘๐ - ๙๐ จึงมักทาสีเพดานเป็นสีขาว ส่วนกำแพงควรมีแสงสะท้อนอยู่ในระดับร้อยละ ๔๐ - ๖๐ จึงมักทาสีอ่อนและพื้นควรมีแสงสะท้อนอยู่ในระดับร้อยละ ๒๐ - ๔๐ จึงมักทำให้พื้นมีสีเข้ม การออกแบบสิ่งที่มองควรป้องกันไม่ให้เกิดเงาของแสงสะท้อน (glare) เพื่อไม่ให้เกิดความเมื่อยล้าทางสายตา
๓. ความแตกต่างของแสงที่ตกกระทบบนพื้นที่ที่ใกล้กัน (luminous contrast)
หากมีความแตกต่างของแสงมากจะทำให้ตาสามารถแยกความแตกต่างได้ง่ายขึ้น
การออกแบบอุปกรณ์ที่ต้องอาศัยการเคลื่อนไหวเพื่อก่อให้เกิดงาน เช่น คีย์บอร์ดในอดีตแป้นพิมพ์หรือคีย์บอร์ดนั้นไม่ได้เป็นไปตามหลักการยศาสตร์ เช่น ตัวอักษรบนแป้นพิมพ์จะเรียงตัวตามแนวทแยงจากซ้ายไปขวาซึ่งเป็นข้อจำกัดในการสร้างแป้นพิมพ์รวมทั้งแป้นพิมพ์ในแนวนอนก็จะเป็นเส้นตรงซึ่งนิ้วของมนุษย์มิได้เรียงในแนวเดียวกันเช่นเดียวกับแป้นพิมพ์ บนแป้นพิมพ์มักมีปุ่มให้พิมพ์มากเกินความจำเป็น นอกจากนี้ผู้ที่มีอาการบาดเจ็บที่ข้อมือจากการทำงานซ้ำ ๆ มักเป็นพนักงานที่ต้องใช้แป้นพิมพ์ตลอดเวลา นักวิชาการจึงได้ศึกษาและคิดค้นแป้นพิมพ์ที่ถูกต้องตามหลัก การยศาสตร์และออกแบบแป้นพิมพ์ใหม่โดยแบ่งแป้นพิมพ์ออกเป็น ๒ ส่วน ตรงกลางของแป้นพิมพ์นูนสูงกว่าขอบและปุ่มพิมพ์เรียงตัวตามลักษณะการเรียงตัวของนิ้วมือเพื่อลดการใช้นิ้วในรูปแบบหัวนิ้วลง
ในกรณีที่นั่งทำงานการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ต้องคำนึงถึงระยะห่างระหว่างเฟอร์นิเจอร์ชิ้นต่าง ๆ และต้องมีขนาดที่เหมาะสมกับร่างกายโดยต้องออกแบบให้ส่วนประกอบของเฟอร์นิเจอร์ สามารถปรับขนาดได้หรือให้ระดับความสูงของโต๊ะคงที่แต่สามารถปรับระดับเก้าอี้และจอคอมพิวเตอร์ได้หรือจะให้ความสูงของเก้าอี้คงที่แต่สามารถปรับส่วนรองรับร่างกายอื่นและจอคอมพิวเตอร์ได้ การออกแบบให้เฟอร์นิเจอร์สามารถปรับได้นั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อช่วยลดความเมื่อยล้าและความเครียดของร่างกาย ในการออกแบบเก้าอี้ต้องให้ที่นั่งสามารถรองรับน้ำหนักของร่างกายได้ควรหลีกเลี่ยงพื้นผิวที่แข็งเพราะจะเกิดแรงกดบนเนื้อและควรสามารถปรับให้เข้ากับรูปร่างได้ การมีพนักพิงหลังสามารถช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลังได้อย่างดี พนักพิงหลังควรสูงถึงระดับศีรษะเพื่อรองรับศีรษะและคอ นอกจากนี้ควรมีรูปร่างเหมาะสมกับหลังและควรปรับมุมเอียงเพื่อความสบายของกล้ามเนื้อหลัง พนักพิงแขนซึ่งใช้ในการรับน้ำหนักของแขนควรอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมและควรทำด้วยพื้นผิวที่สามารถรับน้ำหนักได้ อย่างไรก็ตามพนักพิงแขนอาจเป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหวของแขนได้ดังนั้นถ้างานที่ทำต้องมีการเคลื่อนไหวของแขนมาก ๆ เก้าอี้ที่ใช้ก็ไม่ควรมีพนักพิงแขน
นอกจากการออกแบบเครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับงานแล้วการออกแบบสิ่งแวดล้อม ได้แก่ การวางผังของสำนักงานก็ควรให้เหมาะสมกับการไหลของงาน อุปกรณ์ที่ใช้ควรมีเสียงเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ รวมทั้งต้องมีอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสมด้วยเนื่องจากอุปกรณ์ในสำนักงาน เช่น คอมพิวเตอร์มีการคายความร้อนออกมาทำให้อุณหภูมิในสำนักงานสูงขึ้นได้ นอกจากนี้การออกแบบลักษณะของงานและโครงสร้างขององค์กรก็เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง นอกเหนือจากการออกแบบอุปกรณ์และเฟอร์นิเจอร์ธรรมชาติของมนุษย์ชอบการควบคุมงานด้วยตนเอง มากกว่าถูกผู้อื่นควบคุม ดังนั้นผู้ปฏิบัติงานจึงควรสามารถกำหนดอัตราการทำงานของตนเองได้ภายใต้ข้อจำกัดต่าง ๆ และสามารถกระจายภาระงานตามระยะเวลาที่มีจำกัดได้ด้วยตนเองคนส่วนใหญ่ยังชอบทำงานที่มีสาระสำคัญมากกว่างานที่ไม่สำคัญรวมทั้งความสัมพันธ์ทางสังคมในที่ทำงานก็สามารถเพิ่มสมรรถนะในการทำงานได้เช่นกัน กล่าวโดยสรุปคือการออกแบบอุปกรณ์สิ่งแวดล้อม รวมทั้งระบบให้ถูกต้องและเหมาะสมต้องอาศัยความรู้ทางการยศาสตร์ความเข้าใจในกิจกรรมของงานและความต้องการต่าง ๆ ในการทำงานจึงจะก่อให้เกิดประสิทธิผลที่ดีในการทำงานได